The Princess and the frog
The Princess and the frog
![]()
ข้อมูลพื้นฐาน
ปรากฎตัวครั้งแรก: The Princess and the frog 2009
อายุ: 19 ปี
ฐานะในการเป็นเจ้าหญิง: อภิเษกสมรส
สัญชาติ : อเมริกัน-แอฟริกัน
อ้างอิงจากนิทานเรื่อง: The Frog Prince
refference ตัวละครอ้างอิงจาก: เจ้าหญิงในเรื่อง The Frog Prince และ Leah Chase เชฟสาวผิวสีชาวนิวออร์ลีนส์
คู่สมรส : Prince Naveen
![]()
หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Mulan ในปี 1998 ผ่านพ้นไป ดิสนีย์ก็อยู่ในช่วงรุ่งเรืองอีกสองสามปี จนความดังของหนังการ์ตูนดิสนีย์ค่อยๆเบาบางลง และดิสนีย์เองก็ไม่ได้หันกลับไปทำหนังแนว fairy tale มานานมากแล้ว ดังนั้นในปี 2009 ดิสนีย์จึงออกภาพยนตร์แนวแฟรี่เทลเรื่องใหม่ โดยฝีมือของสองผู้กำกับ Ron Clements และ John Musker สองผู้กำกับผู้เคยกอบกู้ความรุ่งเรืองของดิสนีย์ให้กลับมาด้วยผลงานอย่าง The Little Mermaid และ Aladdin เป็นต้น
แต่คราวนี้ดิสนีย์ไม่ใช่แค่จับเอานิทานปรัมปราลงมาเป็นหนังเลย แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งตัวละคร สถานที่ และเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่าแทบจะยกเครื่องเรื่อง เจ้าชายกบ ใหม่ทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหญิงผิวสีคนแรกอย่าง เทียน่า จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา
เทียน่าเป็นเด็กสาวชาวเชื้อสายแอฟริกันที่มาเกิดในอเมริกา ในสังคมของทาสในสมัยนั้น ฐานะทางบ้านของเธอจึงไม่ค่อยดีมาก แต่เธอก็มีพ่อแม่ที่รักและดูแลเธอ คือ James และ Eudora โดย James พ่อของเทียน่ามีพรสวรรค์ในการทำอาหาร เขาจึงมักจะทำอาหารแจกให้เพื่อนบ้านเสมอ ส่วน Eudora เอง ก็มีฝีมือตัดเย็บที่ไม่แพ้ใคร เธอจึงได้งานตัดชุดให้ Lottie ลูกสาวของคุณ La' Bouff ผู้มั่งคั่งในเมืองนิวออร์ลีนส์นั่นเอง
![]()
ครอบครัวสุขสันต์ Eudora, James และ Tiana
Lottie หรือ Charlotte La Bouff นั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็เป็นเพื่อนที่ดีของนางเอกตั้งแต่เด็กจนโต ซึ่งขัดกับวงการละครไทยมาก ที่เพื่อนนางเอกผู้มีฐานะและเอาแต่ใจมาชอบพระเอก ต้องเป็นตัวร้าย แต่ในเรื่องนี้ ล็อตตี้ กลับเป็นคนดีอย่างเหลือเชื่อ
![]()
ล็อตตี้กลับคุณลาบัฟฟ์
และอย่างที่ทุกคนทราบกันค่ะว่าเรื่องราวของ The Princess and The Frog นั้นเกิดขึ้นที่เมือง New Orleans ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของดนตรีแจ็ส จากวงดนตรีแจ็สชื่อดังอย่างวง Dixieland และมีนักร้องเพลงแจ็สและนักเป่าทรัมเปตชื่อดังอย่าง หลุยส์ อาร์มสตรอง ดังนั้นในเรื่อง The Princess and the Frog จึงนำเรื่องดนตรีแจ็สมาใช้ค่ะ โดยเริ่มที่ในส่วนของดนตรีที่จากเดิมจะใช้เป็นเพลงแนว Broadway อลังการ แต่ในเรื่องนี้ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นดนตรีแจ็สทั้งเรื่อง อีกทั้งตัวละครในเรื่องบางตัวก็มีความเกี่ยวข้องกับบุคลจริงๆอย่างเจ้าจระเข้ลูอิส เป็นจระเข้ที่ชอบเป่าทรัมเปตเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งเจ้าลูอิส (Louis) ก็ดันไปชื่อคล้ายกับ คุณหลุยส์ (Louise) อาร์มสตรอง นักเป่าทรัมเปตชื่อดังในยุค ทั้งนี้เพื่อเป็นกาารให้เกียรติหลุยส์ อาร์มสตรองนั่นเอง ![]()
กลับมาที่เทียน่ากันต่อ นอกจากนางจะเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนที่ 9 และเป็นเจ้าหญิงผิวดำคนแรกแล้ว นางยังเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนแรกที่ปรากฎเสียงในวัยเด็กของนางค่ะ หลังจากที่ซินเดอเรลล่าและออโรร่าเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ที่มีภาพวัยเด็กของตัวเองในหนังมาก่อน แต่ตอนนั้นพวกนางแค่มายืนกันนิ่งๆค่ะ ไร้การขยับและเสียงพูดใดๆ ก็ได้เทียน่านี่แหล่ะค่ะเป็นผู้บุคเบิกยุคที่เจ้าหญิงทุกคนมีวัยเด็กให้เห็นในหนัง ถ้าไม่เชื่อ ลองกลับไปดูสิคะ ตั้งแต่เทียน่า ราพันเซล เมอริด้า อันนา และเอลซ่า ทุกคนต่างมีวัยเด็กมาเริงร่าในหนังกันทุกคนเลย![]()
เริงร่าวัยเด็กของล็อตตี้กับเทียน่า
แต่วันเวลาแห่งความสุขก็ได้ผ่านไป พ่อของเทียน่าก็ได้จากไปในสงคราม ทั้งๆที่ยังทำความฝันที่จะเปิดร้านอาหารไม่สำเร็จ เทียน่าผู้ได้พรสวรรค์ในการทำอาหารมาจากพ่อ จึงสานต่อความฝันนี้ แต่ด้วยฐานะที่ยากจน เธอจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินเปิดร้านอาหาร นั่นทำให้เทียน่า กลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนแรกที่มีอาชีพ เพราะหลังจากที่เธอแต่งงานกับเจ้าชายนาวีนแล้ว เธอก็ยังเปิดร้านอาหารชื่อว่า Tiana's Palace และดำเนินกิจการไปกับเจ้าชาย พร้อมทั้งให้เจ้าลูอิสมาเป็นนักดนตรีประจำร้านอีกด้วย![]()
เทียน่า ดำเนินร้านอาหาร Tiana's Palace ![]()
ควบคู่ไปกับสามีของเธอ เจ้าชายนาวีน เจ้าชายจากมัลโดเนียผู้รักสนุกทำให้ถูกตัดออกจากกองมรดก![]()
ในตอนแรกที่ยังไม่ได้แต่งงาน เทียน่าตั้งใจให้ร้านของเธอชื่อว่า Tiana's Place แต่พอแต่งงานแล้วเธอก็เปลี่ยนชื่อเป็น Tiana's Palace ซึ่งแปลว่าปราสาทของเทียน่า นับได้ว่าเป็นปราสาทที่เก๋ที่สุดในบรรดาปราสาทของเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งหมด
ในเรื่อง costume เอง เทียน่าก็ไม่ยอมน้อยหน้าเจ้าหญิงคนไหน เพราะเธอเป็นเจ้าหญิงที่เปลี่ยนชุดมากที่สุด โดยเธอเปลี่ยนชุดทั้งหมด 10 ชุด
แต่ถ้านับชุดในตอนเด็กด้วย เธอก็เปลี่ยนชุดมากถึง 12 ชุด![]()
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเทียน่ามีอาชีพเป็นเด็กเสิร์ฟ และนักทำอาหารหรือว่า เชฟ ซึ่งในส่วนนี้ ทางนี้ได้แรงบันดาลใจมากชีวิตของ Leah Chase กุ๊กหญิงชื่อดังชาว News Orlean ซึ่งหลังจากที่ The Princess and the Frog ได้ออกฉายไปแล้วนั้น ก็ได้ออกหนังสือคู่มือการทำอาหารสำหรับเด็กชื่อว่า "Tiana's Cookbook" โดยได้ Leah Chase เนี่ยแหล่ะที่เป็นคนเขียนหนังสือค่ะ
![]()
"Tiana's Cookbook"
![]()
Leah Chase
นอกจากนี้ เทียน่า เองยังเป็นเจ้าหญิงที่มีลักยิ้ม และถนัดแขนซ้าย แต่เอ๊ะ ทำไม เทียน่าต้องมีลักยิ้ม และต้องถนัดแขนซ้าย นั่นเป็นเพราะว่า Anika Noni Rose นักแสดงสาวจากเรื่อง Dreamgirls ได้บอกให้แอนิเมเตอร์ใส่ลักษณะนี้ไปในตัวของเทียน่านั่นเอง![]()
สำหรับ The Princess and the Frog ในเวอร์ชันภาษาไทยก็ใช้ชื่อว่า "มหัศจรรย์ มนต์รักเจ้าชายกบ"
นอกจากนี้ สาวๆจาก Dreamgirls อีก 2 คน ก็เคยร่วมงานกับทางดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น Jennifer Lopaz ที่เคยถ่ายแบบในซีรีย์ Disney Dream Portrait เป็นเจ้าหญิงจัสมิน และ Jennifer Hudson ที่มาถ่ายแบบเป็น เทียน่า จาก The Princess and the Frog นั่นเอง![]()
Jennifer Lopaz ในบทของจัสมิน จากเรื่องอลาดิน![]()
Jennifer Hudson ในบทของเทียน่า จากเรื่องมัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ
และด้วยความที่เป็นการกลับมาของเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ห่างหายไปนาน
ดิสนีย์จึงได้จัดพิธีสถาปนาการเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ให้กับเทียน่าอย่างเป็นทางการ
โดยเป็นการจัดงานเพื่อบอกว่า ต่อไปเทียน่า จะได้เข้าร่วมกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์นะ
จะมีสินค้าหน้าเทียน่าในกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์เพิ่มขึ้นนะ (พวกเอ็งอย่าลืมสะสมให้ครบเซ็ตนะโว้ย 555)
โดยงานสถาปนานี้เป็นงานสถาปนาการเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ครั้งแรกของโลก
จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.2010 ที่โรงแรมนิวยอร์ค พาเลซ
และในงานยังให้ให้นักแสดงมาแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 10 คน และเจ้าชายนาวีน
เพื่อมาทำพิธีสวมมงกุฎแสดงความเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างเต็มตัวนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการเชิญดารา คนดัง รวมถึงผู้พากษ์เสียงตัวละครต่างๆในเรื่อง มาร่วมงานนี้อีกด้วยค่าาาา![]()
ที่มา :https://pantip.com
สมาชิกหมายเลข 1051996