เจ้าหญิง Tiana

0
1741

The Princess and the frog

The Princess and the frog

ข้อมูลพื้นฐาน
ปรากฎตัวครั้งแรก: The Princess and the frog 2009
อายุ: 19 ปี
ฐานะในการเป็นเจ้าหญิง: อภิเษกสมรส
สัญชาติ : อเมริกัน-แอฟริกัน
อ้างอิงจากนิทานเรื่อง:  The Frog Prince
refference ตัวละครอ้างอิงจาก: เจ้าหญิงในเรื่อง The Frog Prince และ Leah Chase เชฟสาวผิวสีชาวนิวออร์ลีนส์
คู่สมรส : Prince Naveen

หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Mulan ในปี 1998 ผ่านพ้นไป ดิสนีย์ก็อยู่ในช่วงรุ่งเรืองอีกสองสามปี จนความดังของหนังการ์ตูนดิสนีย์ค่อยๆเบาบางลง และดิสนีย์เองก็ไม่ได้หันกลับไปทำหนังแนว fairy tale มานานมากแล้ว ดังนั้นในปี 2009 ดิสนีย์จึงออกภาพยนตร์แนวแฟรี่เทลเรื่องใหม่ โดยฝีมือของสองผู้กำกับ Ron Clements และ John Musker สองผู้กำกับผู้เคยกอบกู้ความรุ่งเรืองของดิสนีย์ให้กลับมาด้วยผลงานอย่าง The Little Mermaid และ Aladdin เป็นต้น
แต่คราวนี้ดิสนีย์ไม่ใช่แค่จับเอานิทานปรัมปราลงมาเป็นหนังเลย แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งตัวละคร สถานที่ และเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่าแทบจะยกเครื่องเรื่อง เจ้าชายกบ ใหม่ทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหญิงผิวสีคนแรกอย่าง เทียน่า จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา

เทียน่าเป็นเด็กสาวชาวเชื้อสายแอฟริกันที่มาเกิดในอเมริกา ในสังคมของทาสในสมัยนั้น ฐานะทางบ้านของเธอจึงไม่ค่อยดีมาก แต่เธอก็มีพ่อแม่ที่รักและดูแลเธอ คือ James และ Eudora โดย James พ่อของเทียน่ามีพรสวรรค์ในการทำอาหาร เขาจึงมักจะทำอาหารแจกให้เพื่อนบ้านเสมอ ส่วน Eudora เอง ก็มีฝีมือตัดเย็บที่ไม่แพ้ใคร เธอจึงได้งานตัดชุดให้ Lottie ลูกสาวของคุณ La' Bouff ผู้มั่งคั่งในเมืองนิวออร์ลีนส์นั่นเอง


ครอบครัวสุขสันต์ Eudora, James และ Tiana

Lottie หรือ Charlotte La Bouff นั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็เป็นเพื่อนที่ดีของนางเอกตั้งแต่เด็กจนโต ซึ่งขัดกับวงการละครไทยมาก ที่เพื่อนนางเอกผู้มีฐานะและเอาแต่ใจมาชอบพระเอก ต้องเป็นตัวร้าย แต่ในเรื่องนี้ ล็อตตี้ กลับเป็นคนดีอย่างเหลือเชื่อ 


ล็อตตี้กลับคุณลาบัฟฟ์

และอย่างที่ทุกคนทราบกันค่ะว่าเรื่องราวของ The Princess and The Frog นั้นเกิดขึ้นที่เมือง New Orleans  ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของดนตรีแจ็ส จากวงดนตรีแจ็สชื่อดังอย่างวง Dixieland และมีนักร้องเพลงแจ็สและนักเป่าทรัมเปตชื่อดังอย่าง หลุยส์ อาร์มสตรอง ดังนั้นในเรื่อง The Princess and the Frog จึงนำเรื่องดนตรีแจ็สมาใช้ค่ะ โดยเริ่มที่ในส่วนของดนตรีที่จากเดิมจะใช้เป็นเพลงแนว Broadway อลังการ แต่ในเรื่องนี้ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นดนตรีแจ็สทั้งเรื่อง อีกทั้งตัวละครในเรื่องบางตัวก็มีความเกี่ยวข้องกับบุคลจริงๆอย่างเจ้าจระเข้ลูอิส เป็นจระเข้ที่ชอบเป่าทรัมเปตเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งเจ้าลูอิส (Louis) ก็ดันไปชื่อคล้ายกับ คุณหลุยส์ (Louise) อาร์มสตรอง นักเป่าทรัมเปตชื่อดังในยุค ทั้งนี้เพื่อเป็นกาารให้เกียรติหลุยส์ อาร์มสตรองนั่นเอง 

กลับมาที่เทียน่ากันต่อ นอกจากนางจะเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนที่ 9 และเป็นเจ้าหญิงผิวดำคนแรกแล้ว นางยังเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนแรกที่ปรากฎเสียงในวัยเด็กของนางค่ะ หลังจากที่ซินเดอเรลล่าและออโรร่าเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ที่มีภาพวัยเด็กของตัวเองในหนังมาก่อน แต่ตอนนั้นพวกนางแค่มายืนกันนิ่งๆค่ะ ไร้การขยับและเสียงพูดใดๆ ก็ได้เทียน่านี่แหล่ะค่ะเป็นผู้บุคเบิกยุคที่เจ้าหญิงทุกคนมีวัยเด็กให้เห็นในหนัง ถ้าไม่เชื่อ ลองกลับไปดูสิคะ ตั้งแต่เทียน่า ราพันเซล เมอริด้า อันนา และเอลซ่า ทุกคนต่างมีวัยเด็กมาเริงร่าในหนังกันทุกคนเลย

เริงร่าวัยเด็กของล็อตตี้กับเทียน่า

แต่วันเวลาแห่งความสุขก็ได้ผ่านไป พ่อของเทียน่าก็ได้จากไปในสงคราม ทั้งๆที่ยังทำความฝันที่จะเปิดร้านอาหารไม่สำเร็จ เทียน่าผู้ได้พรสวรรค์ในการทำอาหารมาจากพ่อ จึงสานต่อความฝันนี้ แต่ด้วยฐานะที่ยากจน เธอจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินเปิดร้านอาหาร นั่นทำให้เทียน่า กลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนแรกที่มีอาชีพ เพราะหลังจากที่เธอแต่งงานกับเจ้าชายนาวีนแล้ว เธอก็ยังเปิดร้านอาหารชื่อว่า Tiana's Palace และดำเนินกิจการไปกับเจ้าชาย พร้อมทั้งให้เจ้าลูอิสมาเป็นนักดนตรีประจำร้านอีกด้วย

เทียน่า ดำเนินร้านอาหาร Tiana's Palace 

ควบคู่ไปกับสามีของเธอ เจ้าชายนาวีน เจ้าชายจากมัลโดเนียผู้รักสนุกทำให้ถูกตัดออกจากกองมรดก

ในตอนแรกที่ยังไม่ได้แต่งงาน เทียน่าตั้งใจให้ร้านของเธอชื่อว่า Tiana's Place แต่พอแต่งงานแล้วเธอก็เปลี่ยนชื่อเป็น Tiana's Palace ซึ่งแปลว่าปราสาทของเทียน่า นับได้ว่าเป็นปราสาทที่เก๋ที่สุดในบรรดาปราสาทของเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งหมด 

ในเรื่อง costume เอง เทียน่าก็ไม่ยอมน้อยหน้าเจ้าหญิงคนไหน เพราะเธอเป็นเจ้าหญิงที่เปลี่ยนชุดมากที่สุด โดยเธอเปลี่ยนชุดทั้งหมด 10 ชุด 
แต่ถ้านับชุดในตอนเด็กด้วย เธอก็เปลี่ยนชุดมากถึง 12 ชุด

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเทียน่ามีอาชีพเป็นเด็กเสิร์ฟ และนักทำอาหารหรือว่า เชฟ ซึ่งในส่วนนี้ ทางนี้ได้แรงบันดาลใจมากชีวิตของ Leah Chase กุ๊กหญิงชื่อดังชาว News Orlean ซึ่งหลังจากที่ The Princess and the Frog ได้ออกฉายไปแล้วนั้น ก็ได้ออกหนังสือคู่มือการทำอาหารสำหรับเด็กชื่อว่า "Tiana's Cookbook" โดยได้ Leah Chase เนี่ยแหล่ะที่เป็นคนเขียนหนังสือค่ะ


"Tiana's Cookbook"


Leah Chase

นอกจากนี้ เทียน่า เองยังเป็นเจ้าหญิงที่มีลักยิ้ม และถนัดแขนซ้าย แต่เอ๊ะ ทำไม เทียน่าต้องมีลักยิ้ม และต้องถนัดแขนซ้าย นั่นเป็นเพราะว่า Anika Noni Rose นักแสดงสาวจากเรื่อง Dreamgirls ได้บอกให้แอนิเมเตอร์ใส่ลักษณะนี้ไปในตัวของเทียน่านั่นเอง

สำหรับ The Princess and the Frog ในเวอร์ชันภาษาไทยก็ใช้ชื่อว่า "มหัศจรรย์ มนต์รักเจ้าชายกบ"

นอกจากนี้ สาวๆจาก Dreamgirls อีก 2 คน ก็เคยร่วมงานกับทางดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น Jennifer Lopaz ที่เคยถ่ายแบบในซีรีย์ Disney Dream Portrait เป็นเจ้าหญิงจัสมิน และ Jennifer Hudson ที่มาถ่ายแบบเป็น เทียน่า จาก The Princess and the Frog นั่นเอง

Jennifer Lopaz ในบทของจัสมิน จากเรื่องอลาดิน

Jennifer Hudson ในบทของเทียน่า จากเรื่องมัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ

และด้วยความที่เป็นการกลับมาของเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ห่างหายไปนาน
ดิสนีย์จึงได้จัดพิธีสถาปนาการเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ให้กับเทียน่าอย่างเป็นทางการ
โดยเป็นการจัดงานเพื่อบอกว่า ต่อไปเทียน่า จะได้เข้าร่วมกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์นะ
จะมีสินค้าหน้าเทียน่าในกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์เพิ่มขึ้นนะ (พวกเอ็งอย่าลืมสะสมให้ครบเซ็ตนะโว้ย 555)
โดยงานสถาปนานี้เป็นงานสถาปนาการเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ครั้งแรกของโลก
จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.2010 ที่โรงแรมนิวยอร์ค พาเลซ
และในงานยังให้ให้นักแสดงมาแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 10 คน และเจ้าชายนาวีน
เพื่อมาทำพิธีสวมมงกุฎแสดงความเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างเต็มตัวนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการเชิญดารา คนดัง รวมถึงผู้พากษ์เสียงตัวละครต่างๆในเรื่อง มาร่วมงานนี้อีกด้วยค่าาาา

 

 

ที่มา :https://pantip.com
สมาชิกหมายเลข 1051996

 

Comments

comments