บทประพันธ์โดย : กิ่งฉัตร
กำกับการแสดงโดย : วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย : ค่าย ดวงมาลีมณีจันทร์
ควบคุมการผลิตโดย : จันจิรา จูแจ้ง
เรื่องย่อ ละครนางบาป
บริษัทเบญจแปลงกาย โปรดักชั่นเฮาส์ชื่อดัง ของ วิษณุ ผู้กำกับสารคดีมือรางวัล ได้รับงานตัดต่อ รายการ “เล่าเรื่องตึกเก่า” ซึ่งมี ปาล สถาปนิกหนุ่ม ทำหน้าที่เป็นพิธีกร โดยเทปรายการเทปนี้ เป็นการ เล่าเรื่องตึกเก่าของ “เรือนพระวนาเทพ” ที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอ นางบาป ซึ่งว่ากันว่าเดิมทีอำเภอนี้ชื่อว่า อำเภอบางบาป แต่ที่เพี้ยนมาเป็นชื่ออำเภอนางบาปก็เพราะ วีรกรรมของนางหยาดทาสใจบาปในตำนาน ซึ่งหลงรัก พระวนาเทพ ข้าราชการหนุ่มที่มาดูแลกิจการค้าซุงที่บางบาปและตัดสินใจตั้งรกราก แต่งงานกับ คุณกำไล โดยมีนางหยาดทาสรับใช้คนโปรดของ คุณกำไลตามมารับใช้ด้วย
คุณกำไลแต่งงานกับพระวนาเทพ จนมีบุตรสาว 2 คน นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนพระวนาเทพ จนมันได้กลายเป็นเมียทาสในที่สุด นางหยาดเที่ยวไปลือว่ามันจะได้ปลดแอก และพระวนาเทพจะแต่งตั้งมันให้ขึ้นมาเสมอคุณกำไล แต่สุดท้ายกำไลก็ตั้งท้องลูกคนที่ 3 ทำให้นางหยาดแค้นใจมาก จึงคิดวางยาคุณกำไลที่ตั้งท้องอ่อนลูกชายอยู่และลูกสาวอีกสองคนจนถึงแก่ชีวิต เหล่าบรรดาทาสเมื่อรู้เรื่อง ก็โกรธแค้นและรักตัวกลัวความผิดจะสาดทอดมาถึงตัวเอง จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายของนางหยาด กลายเป็นตำนานที่ถูกเล่า ทั่วไปในหมู่บ้านบางบาป จนทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนมาเป็น นางบาปอย่างทุกวันนี้ และตั้งแต่ที่บริษัทเบญจกายแปลงรับงาน ตัดต่อเทปนี้มา วิษณุก็เริ่มฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง และเรื่องราวตามตำนานเป็นฉากๆ
คืนประกาศรับรางวัลนาฎราช ซึ่งคราคร่ำไปด้วยนักแสดง บุคคลในวงการบันเทิง และ นักข่าวมากมาย ต้น ธนัตถ์ และ กิฟท์ ภาพิมล นักแสดงที่ฮอตที่สุดของเมืองไทยตอนนั้น ได้ขึ้นรับรางวัลร่วมกัน ในฐานนะนักแสดงนำชายและนำหญิง ส่วนวิษณุได้ขึ้นรับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม จากสารคดีแนวประวัติศาสตร์งานถนัดของเขา โดยได้กล่าวขอบคุณ เรืองริน โปรดิวเซอร์สาวมือขวา ของเขาที่ชื่นชมในตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ จนขอตามมาฝึกงาน และทำงานกับเขามาตลอดตั้งแต่นั้น และในงานนี้เอง วิษณุก็ไปร่วมงานด้วย
หลังงานรับรางวัลเลิก ขณะวิษณุขับรถกลับ วิษณุก็มองเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง ผูกคอตายที่ริมต้นไม้ข้างทาง แต่รินที่นั่งมาด้วย กลับมองไม่เห็นภาพนั้น และเมื่อกลับ มาถึงที่บริษัท ก็เห็นภาพของผู้หญิงในชุดสไบม่วงคนเดียวกับที่เห็นข้างทาง ผูกคอตายใต้ต้นไม้ในตำนานนั้น แต่ครั้งนี้มีเสียงผู้หญิงเพรียกหา เรียกเขาว่าคุณพระ และขอให้เขาเดินทางมาหาเธอที่ต้นไม้แห่งนี้ วิษณุประหลาดใจมาก เพราะที่แท้แล้วนางบาป ก็คือบ้านเกิดของเขานั่นเอง วิษณุจึงตัดสินใจเดินทางไปที่อำเภอ นางบาปในวันรุ่งขึ้น
เมื่อเดินทางไปถึงที่อำเภอนางบาป วิษณุขอตัวไปดูรอบๆ และให้รินไปติดต่อเจ้าของเรือนวนาเทพ ที่ได้ดัดแปลงสถานที่มาเป็นรีสอร์ทบ้านชายน้ำ ทำให้รินได้เจอกับปาลที่บนเรือน และเข้าใจผิดว่าปาลเป็นเจ้าของเรือนวนาเทพ ปาลแกล้งสวมรอยก่อนสุดท้ายจะเฉลยว่า เขาเป็นแค่พิธีกรที่เคยมาถ่ายรายการที่นี่ ปาลก็คือรุ่นน้องที่สถาปัตย์ของวิษณุ ส่วนวิษณุที่ยืนมองต้นไม้ในตำนานอยู่ ก็เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดใต้ต้นไม้ในตำนานต้นนั้น เขาสัมผัสต้นไม้ และรู้สึกถึงเลือดสีแดงฉาน ที่ไหลออกมาจากลำต้นอาบรดมือเขา ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดสไบม่วงให้เขาเห็นเต็มๆ ตา และขอร้องเขาอีกครั้ง ว่าให้กลับมาปิดตำนานนางบาปเสียที เมื่อกลับจากการเดินทาง วิษณุจึงตัดสินใจจะทำเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานนางบาปเป็นละคร
วิษณุสามารถทาบทาม ต้น พระเอกชื่อ ดังให้ข้ามช่องมาเล่นเป็นพระวนาเทพได้ ขอกิฟท์นางเอกเบอร์ 1 ของช่องมารับบทเป็นคุณกำไล ส่วนบทบาทของ นางหยาด รับโดย พายภัคตรา นางร้ายนิสัยดี ที่ถูกชะตากับปาลตั้งแต่เจอกันวันแคสติ้ง รินถูกกดดันหนัก จากการเป็นผู้จัดหน้าใหม่ ถูกทีมงานต่อว่าลับหลัง แม้กระทั่งพีอาร์กอง เธอยังต้องนำ เดือน น้องสาวของ ฝน แฟนเก่าของเขา มารับหน้าที่ประชาสัมพันธ์กองแทน เดือน น้องสาวของแฟนเก่าวิษณุ ก็ไม่พอใจที่ริน สนิทสนมกับวิษณุเช่นกัน กิฟท์ ที่ไม่พอใจ ทั้งธนัตถ์และปาล ให้ความสนใจในตัวรินเป็นพิเศษ รินกลายเป็นศัตรูของทั้งเดือน กิฟท์ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร มีแต่ พาไล ผู้จัดการสาวมาดนิ่งของต้น ที่คอยให้กำลังใจริน เรื่องราวมีปัญหาไปจนถึงคนเขียนบท จนทำให้วิษณุ ต้องเขียนบทเองด้วยความช่วยเหลืออย่างลับๆ จากผีหยาดที่คอยมาช่วยพิมพ์บท โดยที่วิษณุเองก็ไม่รู้ตัว จนเมื่อได้เห็นบทที่เขาเขียนเองกับมือ ชื่อหยาดกลับกลายเป็นชื่อหยด และหญิงสาวในชุดสไบสีม่วงยังบอกเขาว่า ช่วยปลดปล่อยเธอกับพี่หยดที ทำให้วิษณุเริ่มสงสัยว่าชื่อ หยดมาจากไหน
เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำ โดยไปถ่ายทำที่เรือนวนาเทพ คืนนั้นเอง ก็เป็นครั้งแรกที่วิษณุฝันถึงผู้หญิงในชุดสไบสีแดงที่ชื่อหยด โดยเห็นตัวเองเป็นพระวนาเทพ เข้าไปช่วยเหลืออีหยดที่ถูกชายฉกรรจ์ฉุด และได้เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเนื้อตัวมอมแมมของอีหยด และมอบไว้ให้มัน ซึ่งอีหยดก็สัญญามั่นว่า จะนำผ้าผืนนี้ไปคืนไม่ว่าวิษณุจะอยู่แห่งหนใด ส่วนอีหยดเมื่อวิษณุจำมันได้แล้ว วิญญาณของมันเลยได้รับการปลดปล่อยออกจากมีดที่ปักหลังและเชือกที่รัดมันไว้ ให้ออกจากห้องเก็บของ และเพ่นพ่านไปมาบนเรือนนี้ได้
รินออกไปตลาดนางบาป มีคนบอกว่า จริงๆ แล้วนางหยาดไม่ได้ร้าย ตามตำนานและไม่ใช่คนฆ่ากำไล แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าแล้วใครทำวิษณุเริ่มคิวแรกด้วยการถ่ายทำฉากนางหยาดถูกแขวนคอ แต่เมื่อถึงฉากที่พายต้องขึ้นนั่งร้านเพื่อถ่ายทำฉากแขวนคอ พายเกิดกลัวขึ้นมา จนการถ่ายทำสะดุด รินจึงตัดสินใจเป็นสแตนด์อินแทนพาย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุหนักกลางกอง เมื่อเชือกที่รินห้อยกลับขาดลงมา รินร่วงจากนั่งร้านตกลงที่พื้น ปาลรีบพารินไปโรงพยาบาล ที่วิษณุระเบิดลงกลางกอง แต่ก็หาตัวคนผิดไม่ได้ กิฟท์เมื่อว่างจากคิวถ่าย ก็นึกพิเรนชวนทีมงานเล่นผีถ้วยแก้ว ผีหยดปรากฏตัวขึนกลางวงและประกาศกร้าวว่า ข้าจะกลับมาเอาคืนในสิ่งที่ ควรเป็นของข้า ไม่ว่าอ้ายอี หน้าไหนขวางหน้า ข้าจะฆ่าให้หมด แล้วผีหยดก็ตามประกบกิฟท์ขณะเข้าฉาก จนกิฟท์ไม่เป็นอันทำการแสดง วิษณุเครียด กับปัญหาทุกอย่าง จึงหลบไปสงบใจที่วัดบางบาป แล้วเขาก็ได้คุยกับหลวงพ่อ ที่วัดบางบาป จนระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเขาคือพระวนาเทพ และ กิฟท์ก็คือคุณกำไลนั่นเอง และยิ่งกว่านั้น ทาสที่รับใช้กำไลมีสองคน คือหยาด และ อีกคนก็คือ…หยด วิษณุ จึงกลับไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้รินฟัง
อีหยดพยายามจะเข้าสิงร่างริน แต่ก็ถูกขัดขวางโดยนางหยาดทุกครั้ง อีหยดแค้นใจนางหยาด เป็นอย่างมาก แต่ไม่เท่าที่รู้สึกน้อยใจในตัววิษณุ ที่รักรินอย่างเหลือเกิน เพราะในอดีต เธอก็เคยพลาดหวังมาแล้ว เมื่อรู้ว่าพระวนาเทพจะมาแต่งงานกับคุณกำไล ซึ่งนางเยื้อนเห็นว่านิสัยของหยดจะนำพาแต่ปัญหา เลยสั่งให้หยดทำงานอยู่แค่เรือนครัวเท่านั้น และส่งหยาดไปรับใช้คุณกำไล วันแต่งงานและเข้าหอของพระวนาเทพ นางเยื้อนจับหยดกักขังไว้ในห้องเก็บของบรรยากาศ หยดร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือดด้วยความเสียใจ ปัจจุบัน หยดยังแค้นใจ และคิดจะสิงร่างของรินให้ได้
ยิ่งนับวัน ปาลก็เริ่มชอบในตัวรินมากขึ้น มาก และขอรินเป็น แฟนตรงๆ แต่รินกลับขอเวลาพิสูจน์ปาล ฝั่งอีหยด เมื่อเห็นว่ารินไม่ได้สวมพระ เพราะพระไปอยู่ที่พายแล้วตามแผนที่มันวางไว้ มันก็สามารถเข้าสิงร่างรินได้อย่างง่ายดาย หลังจากวันนั้น รินก็มีอาการแปลกไป หาเรื่องกิฟท์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังยั่วยวนวิษณุตลอดเวลา จนปาลเริ่มไม่ชอบใจ
ในอดีต หลังจากที่พระวนาเทพแต่งงานกับกำไลแล้ว ก็ยังแอบมาหาหยดอยู่เช่นเดิม แล้ววิษณุ ก็เห็นภาพในอดีตอีก ทำให้รู้ว่า กำไลและหยด มีสามีคนเดียวกันคือพระวนาเทพ กำไลคลอดลูกสาวออกมา รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเรื่องที่หยดมายุ่งเกี่ยวกับสามีตน จนไม่ยอมเลี้ยงลูก ทำให้หยาดมาเลี้ยงดูลูกของกำไลแทน จนถึงลูกคนที่สองของกำไล พระวนาเทพเริ่มเห็นความรัก ความซื่อสัตย์ที่หยาดมีต่อกำไล จึงอยากได้หยาดไปเป็นเมียอีกคน แต่หยาดไม่ยอม พระวนาเทพ จึงไปขอกับกำไลตรงๆ คุณกำไลเจ็บช้ำ แต่ก็สั่งให้หยาดไปเป็นเมียพระวนาเทพทั้งน้ำตา จากนั้นก็ไม่เคยยอมให้หยาดรับใช้ข้างกายอีกเลย ตัดกลับมาปัจจุบัน วิษณุมองต้นไม้ที่หยาดถูกแขวนคอแล้วน้ำตารื้น ที่หยาดถูกใส่ร้าย จึงคิดจะปรับบทละครอีกครั้ง
ระหว่างพักกอง ปาลมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับรินมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็ว แต่รินยังเกรงใจพาย ที่คอยโทรหาปาลเป็นระยะๆ และรู้ว่า ถ้าเธอเปิดเผย ความสัมพันธ์นี้ อาจจะทำให้กองมีปัญหาอีกก็ได้ รินจึงไม่กล้าเทใจให้ปาลมากนัก วิษณุ ต้องเร่งกลับมาถ่ายทำละครอีกครั้ง หลังจากที่ผู้อำนวยการช่อง ไม่ยอมให้เลื่อนการถ่ายทำออกไปอีก เขาถ่ายทำด้วยความฝืนใจที่ทุกครั้งหยาดต้องเล่นบทเป็นผีร้ายในละครที่เขากำกับ เขาเข้าใจแล้วทำไมตอนนั้น บทของเขาจึงถูกเปลี่ยนกลายเป็นชื่อหยดโดยที่เขาไม่รู้ตัว หยาดต้องการมาบอกให้เขาได้รู้บาปกรรมในอดีตที่เคยกระทำลงไป และการถ่ายทำละครก็เดินทางมาถึงตอนที่หยาดเริ่มคิดจะวางยาพิษกำไล ภาพในละครที่วิษณุกำกับคือหยาดเริ่มกร่าง แต่เมื่อตัดเข้าไปภาพในอดีตของจริง คนที่กร่างจริงๆ คืออีหยด ยิ่งเมื่อหยดรู้ว่า พระวนาเทพ ปรารถนาในตัวหยาด จึงหาทางกลั่นแกล้ง หยาดทุกรูปแบบ หยดท้องในที่สุด พระวนาเทพสัญญาว่า ถ้าเป็นลูกชายจริง จะให้หยดได้ขึ้นไปอยู่เรือนใหญ่ ไม่ต้องเป็นลูกทาสอีกต่อไป แต่แล้วคุณกำไล ก็ท้องอีก ส่วนหยด ดันสะดุดบันไดแท้งลูก เธอสั่งหมอ ไม่ให้บอกความจริงแก่พระวนาเทพ และสั่งให้คนไปฆ่าหมออีกด้วย เพื่อปิดทุกอย่างเป็นความลับ
แล้วหยด ก็หลอกให้หยาด เอายาพิษไปให้กำไลกิน จนกำไลเริ่มป่วย หยาดถูกหยดใส่ร้ายว่าจะฆ่ากำไลและลูก จนหยาดถูกแขวนคอบนต้นไม้ขาดใจตาย ท่ามกลางรอยยิ้มสะใจของหยด กับเสียงร้องไห้ของนางเยื้อนที่รู้ว่าหยดทำร้ายทุกคน และยังหลอกอีกว่ายังท้องอยู่ เยื้อนทนไม่ไหว ใช้มีดแทงหยดคามือ บอกว่าถ้ามีใครสักคนต้อง หยุดหยด ขอให้เป็นแม่เองและเอ็งอย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหนอีก แม่ขอสาปแช่งหยด “ขอให้เอ็งต้องอยู่ชดใช้กรรม ที่บ้านหลังนี้ ไม่ต้องไปผุด ไปเกิดสร้างเวร ที่ไหนอีก ขอให้เอ็งติดอยู่ ที่นี่ ดูทุกสิ่งที่เอ็งต้องการ แต่ไม่มีวันได้มาครอบครอง ติดให้นาน นานเทียบเท่ากับทุกหยดน้ำตาของแม่
กำไลที่กำลังจะตาย เอ่ยปากบอก พระวนาเทพ บอกว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความมักมาก หลายใจไม่รู้จักพอ ของชายเพียงคนเดียว กำไลใช้แรงเฮือก สุดท้ายสาปพระวนาเทพ เอ่ยตัดคำสัญญาต่อกัน ขอให้ความสัมพันธ์ผัวเมีย สิ้นสุดกันในชาตินี้ ในเมื่อชาตินี้พี่ผิดคำสัญญารัก ยกย่องใครคนอื่นมากกว่า ฉันชาติหน้าขอให้พี่ รักหญิงใดไม่ได้อีกเลย จากนั้นก็สิ้นใจต่อหน้า พระวนาเทพ โดยมือยังกุมลูกในท้องไว้
ที่กิฟท์เมื่อเห็นท่าทีของรินที่สนิทกับปาล ก็ไปเมาท์กับเดือนเรื่องที่จริงๆ พาไลกับปาลเคย มีอะไรกัน ผีหยดในร่างเดือนนึกสนุก ต้องการทำลายคนอื่น เลยปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ถึงหูริน ทำให้ความสัมพันธ์ของรินกับปาลที่กำลังจะพัฒนาต้องสะดุดลงไปอีก และรินเข้าใจแล้ว สาเหตุที่ดาราอย่างต้นยอมข้ามช่องมาเล่นละครเรื่องนี้ เพราะต้นชอบวิษณุนั่นเอง ส่วนผีหยดเองก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากรินหันไปปองร้ายต้น ด้วยเหตุการณ์ลึกลับต่างๆ นานา วิษณุ อัญเชิญหลวงพ่อมาทำพิธี ด้วยการไหว้ขอขมานังหยดกันแบบลับๆ แต่นางหยดกลับไม่ยอมอภัยให้ รินเอาพระไปให้ต้นสวมเมื่อไม่สามารถทำลายต้นได้ ผีหยดจึงออกอาละวาดหลอกกองถ่ายทั้งทีม แม้ผีหยาดจะคอยปรามพี่สาวตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงอาฆาตนั้นได้
หยาดปรากฏกายให้กิฟท์เห็น และมาขอโทษเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ทำให้กิฟท์ตกใจมาก แต่กิฟท์ก็ไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้วิษณุฟัง ว่าเธอคือคุณกำไล และวิษณุคือคุณวนาเทพ หน้ากระดานผีถ้วยแก้ว ปาล ริน กิฟท์ ช่วยกันทำพิธีส่งวิญญาณหยาดและหยดกลับ ที่ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นอำลาทุกคน พอตอนจะเชิญผีหยดกลับ วิษณุกล่าวขอโทษหยด ถึงความผิด ในอดีตของเขา และขอให้หยดอโหสิกรรม และหากจะมีสักคนที่หยดอยากจะทำร้ายก็ควรเป็นเขา ไม่ใช่ต้นหรือริน เพราะเขาคือต้นเหตุเรื่องทั้งหมด ผีหยดยืนฟังคำขอโทษของวิษณุน้ำตาอาบหน้า ขณะที่แก้วเคลื่อนเหมือนจะไปที่จุดทางออก พอเกือบถึงช่องนั้น แก้วกลับแตกกระจายและบาดวิษณุจนเลือดอาบ แล้วภาพก็ดับวูบไป
ทีมงานเตรียมถ่ายทำซ่อมฉากสุดท้ายคือฉากแขวนคอ ถ่ายทำฉากแขวนคอครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี โดยที่พายขอแก้มือด้วยการแสดงเองเพื่อโชว์สปิริตชดเชยครั้งก่อน วิษณุสั่งปิดกล้อง ทีมงานทุกคนเฮลั่น งานเลี้ยงปิดกล้อง เสียงเพลงดังลั่น สื่อมากันหมด รวมทั้งผู้จัดการของต้นและกิฟท์ กิฟท์หาทางจะมาเคลียร์กับต้น ปาลขึ้นไปร้องเพลงบอกรักริน และเปิดตัวอย่างเป็น ทางการ ต่อหน้าการทำข่าวปิดกล้องของสื่อ ผีหยดในร่างเดือนคอยจ้องต้นตลอดเวลา รับหน้าพาไล เห็นเดือนที่จ้องต้น อยู่ ก็มีท่าทีไม่พอใจ แล้วกิฟท์ ก็ถูกมีดปาดเข้าที่คอ โดยไม่เห็นหน้าคนร้าย ที่เดือนเข้ามาในห้องพักต้น มองไปรอบๆ เตรียมมีดไว้ในมือ แล้วเดือนก็เดินเข้ามาในห้องอีกคน พาไลแสดง ธาตุแท้ออกมา พาไลไม่ได้รู้เลยว่าเดือนต้องการปองร้ายต้นต่างหาก ส่วนมันเองก็ฆ่าผิดคน จริงๆ ต้นอาจไม่ได้รัก วิษณุ แต่ รักพาไลหรือเปล่า วิษณุ ปาล ริน รีบวิ่งตามไปเสียงนั้นทันที เมื่อเปิดประตูห้องต้นเข้าไป ทุกคนก็แทบช็อค กับภาพเดือนที่เลือดอาบคามีดในมือของพาไล ต้นวิ่งตามมาพร้อมกิฟท์ เมื่อพาไลเห็นต้นก็พร่ำเพ้อ ความน้อยใจที่เกิดจากความหึงหวงทันที ที่รินกับปาลรีบพาร่างของเดือนขึ้นไปส่งโรงพยาบาล
ร่างของเดือนถูกระโยงระยางด้วยสายยางเต็มไปหมด ผีหยดในร่างเดือนระส่ำระสาย และไม่แน่ใจว่าจะอาศัยร่างนี้ต่อไปได้หรือไม่และเมื่อน้าเยื้อน แม่ของเดือนปรากฏตัวเยี่ยม ผีหยดก็ต้องอึดอัดแทบหายใจไม่ออก เพราะที่แท้แม่ของเดือน คือนางเยื้อนแม่ของนางหยดและนางหยาดในชาติที่แล้ว ที่ร่างของเดือน เมื่อน้ำตาของแม่หยดลงบนร่าง คำสาปก็ถูกปลุก วิญญาณ
ของหยดต้องกลับไปสิงสถิตย์อยู่ที่ห้องเก็บของในบ้านชายน้ำ เห็นภาพนางหยด ในสภาพที่น่าสงสารอย่างที่สุด มันเอามือประคองท้องของมันที่เต็มไปด้วยเลือด และมีดที่ปักกลางตัวมันไว้
ส่วนกิฟท์กับต้นตกลงเป็นแฟนกันเพื่อผลประโยชน์ สื่อออกข่าวคู่จิ้นครึกโครม รินกลับมาที่บ้านชายน้ำ ปาลตามมาช่วยดูแลและรินรับรักปาลในที่สุด ที่เรือนวนาเทพ ทุกครั้งที่มีคนไปเยี่ยมชมเรือน และเดินผ่านห้องเก็บของ ยังคงได้ยิน เสียงกรีดร้องของวิญญาณหยดที่ถูกขังไว้ในทุกค่ำคืน ดังหลอกหลอนอยู่อย่างนั้น…………………
รายชื่อนักแสดง ละครนางบาป
จรณ โสรัตน์ รับบท ปีย์วรา (ปาล)
ปรียากานต์ ใจกันทะ รับบท เรืองริน
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบท หยด
นาวิน เยาวพลกุล รับบท วิษณุ/คุณพระวนาเทพ
นันทนัช โล่ห์สุวรรณ รับบท หยาด
วรรณปิยะ ออมสินนพกุล รับบท ภาพิมล (กิ๊ฟ)/คุณกำไล
วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ รับบท ธนัตถ์ (ต้น)
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท วิสาข์ (เดือน)
สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล รับบท พักตรา (พาย)
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ รับบท ยุพดี/เยื้อน
สุนิสา เจทท์ รับบท อภิรมย์ (อ๋อย)
กรกฎ พวงสวัสดิ์ รับบท แป๋วแหวว
พริมรตา เดชอุดม รับบท พาไล
ชุดา แสงมงคล รับบท พนาวรรณพิมล
เพลง ใจไม่ปล่อย ตัวไม่ไป (เพลงประกอบละคร นางบาป)
ศิลปิน แนน วาทิยา
คำร้อง The Must
ทำนอง/เรียบเรียง บุรินทร์ สุภัครพงษ์กุล
ในเมื่อหัวใจยึดมั่นที่จะรัก ก็จะไม่ยอมไปไหน ยังรอคอยแต่เธอเท่านั้น “ใจไม่ปล่อย ตัวไม่ไป” เพลงประกอบละคร “นางบาป” ที่สื่ออารมณ์รักมั่นคง ถ่ายทอดเสียงร้องโดย “แนน วาทิยา” นักร้องที่ฝากผลงานเพลงละครไว้แล้วมากมาย
iTunes Store, Apple Music, JOOX และ Qikplay: http://www.qikplay.com
FB : http://www.facebook.com/ChandelierMus… และ http://www.facebook.com/ch3soundtrack
IG : @chandelier_music และ @ Ch3Thailand Music
Youtube : Ch3Thailand Music WWW.เพลงละครช่อง3.com
เนื้อเพลง
ยังเฝ้ารอแต่เธอคนเดียวมานานแสนนาน และใจของฉัน ไม่คิดไม่เคยจะเปลี่ยนไป ภาพความหลังก็ยังลึกซึ้งอยู่ในหัวใจ เธอจำได้ไหม ว่าฉันยังคงอยู่ตรงนี้
*ก็เพราะว่ารักของเธอคนเดียวเท่านั้น ที่มันจองจำกักขังฉันไว้อย่างนี้
**อย่าปล่อยให้ฉันรอคอยแต่เธอได้ไหมคนดี
ที่เดิมตรงนี้ฉันเป็นคนเดิมไม่ไปไหน
เฝ้ารอ เฝ้ารัก เธอเพียงอย่างนี้ ทุกนาทีไม่เคยห่างหาย
หัวใจไม่ปล่อย และตัวไม่ไป ฉันรออยู่แต่เธอ
คำหนึ่งคำที่ทำให้ฉันยังคงต้องรอ และทรมาน ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจไหม
เธอผู้เดียวที่เป็นรักแท้และลมหายใจ จะนานแค่ไหน แต่ฉันยังคงอยู่ตรงนี้
(ซ้ำ */**)
เฝ้ารอ เฝ้ารัก เธอเพียงอย่างนี้ ทุกนาทีไม่เคยห่างหาย หัวใจไม่ปล่อย และตัวไม่ไป ฉันรออยู่แต่เธอ