Canon Powershot G1X Mark III กล้องคอมแพคเซ็นเซอร์ไซส์ APS-C ดีต่อใจ แต่ราคาแอบแรง

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เมื่อทาง Canon นำเซ็นเซอร์ภาพไซส์ APS-C ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ในกล้อง DSLR ระดับ Prosumer อย่างรุ่น 80D มาใส่ในกล้องคอมแพคระดับโปรรุ่นล่าสุด ที่มีชื่อรุ่นว่า Powershot G1X Mark III ทำให้มันกลายเป็นกล้องคอมแพคที่น่าสนใจที่สุดจากค่าย Canon ในเวลานี้ไปโดยปริยาย (ด้วยความที่เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ไซส์เดียวกับกล้อง DSLR) กล้องตัวนี้ติดตั้งเลนส์ซูมแบบตายตัวที่ให้ทางยาวโฟกัส 24-72mm ค่า f2.8-5.6 และมีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทุกอย่างก็เหมือนจะดีหมด เว้นแต่เรื่องราคาที่ดูเหมือนจะรุนแรงไปนิด เพราะ Canon Powershot G1X Mark III เปิดราคามาที่ $1,299 เลยทีเดียว (ประมาณ 43,000 บาท)

ความละเอียดภาพขนาด 24 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel AF ที่โฟกัสภาพได้รวดเร็ว และเลือกใช้หน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 7 ที่ใช้ในกล้อง DSLR รุ่นล่าสุด และจุดเด่นของกล้องคอมแพคอย่าง Powershot G1X Mark III คือขนาดตัวกล้องที่กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเพียง 400 กรัม คือน้ำหนักกล้องรวมเลนส์ ก็ยังเบากว่าบอดี้เปล่าของกล้องมิลเลอร์เลสรุ่น Canon EOS M5 เสียอีก

Martin Dwyer

Application Developer

Rachel Wright

Art Director & Photographer

Andrew Butler

Photographer & Illustrator

ด้วยความที่กล้องคอมแพคตัวนี้ เลือกใช้เซ็นเซอร์ภาพตัวเดียวกับที่อยู่ในกล้อง DSLR รุ่น 80D บวกกับระบบ Dual Pixel AF ที่ทำงานของมันได้ดี ทำให้ค่อนข้างคาดหวังได้ว่า ผลงานภาพถ่ายจากกล้องคอมแพคตัวนี้น่าจะออกมาดี และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในชิ้นเลนส์ ที่ช่วยลดความไหวเบลอของภาพได้ 4 สตอป

Canon Powershot G1X Mark III สามารถถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่อง (Continuous shooting) ได้ 9 ภาพต่อวินาที โดยที่ระบบออโต้โฟกัสไม่สามารถทำงานได้ หรือที่ความเร็ว 7 ภาพต่อวินาที โดยที่ระบบออโต้โฟกัสสามารถทำงานได้ หน่วยความจำบัฟเฟอร์ รองรับการถ่ายไฟล์ RAW ต่อเนื่องได้ 19 ภาพ หรือ 24 ภาพสำหรับการถ่ายแบบ JPEG ในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ดูเหมือนว่าจะน้อยไปหน่อย รองรับการถ่ายภาพได้ 200 ใบเมื่อทดสอบตามมาตรฐานของ CIPA (ทดสอบโดยการเปิดไฟแฟลชในการถ่ายภาพจำนวนครึ่งหนึ่ง) สำหรับคนที่ไม่นิยมถ่ายภาพด้วยไฟแฟลช หรือไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเปิดแฟลช ก็จะได้จำนวนภาพถ่ายที่มากกว่านี้ แต่ถ้าจะให้อุ่นใจว่าแบตฯ จะไม่หมดระหว่างทริป ก็คงต้องเสียเงินซื้อแบตฯ สำรองสักก้อน

ในส่วนของรูปร่างหน้าตาตัวกล้องดูหล่อขึ้นกว่ารุ่น G1X Mark II หน้าตาออกไปในแนวคล้ายๆ รุ่น PowerShot G5 X ที่มีเซ็นเซอร์ภาพขนาดเล็ก 1 นิ้ว และมีปุ่มควบคุมต่างๆ บนตัวกล้องที่อำนวยความสะดวกให้ปรับแต่งค่าการถ่ายได้รวดเร็วทันใจ มีปุ่มหมุน 2 อันทางด้านหน้าและหลังตัวกล้อง มีไฟแฟลชหัวกล้อง และช่องมองภาพแบบ OLED แถมทาง Canon ยังบอกอีกว่า ปุ่มชัตเตอร์ถูกออกแบบให้มีความรู้สึกในการใช้งานคล้ายปุ่มชัตเตอร์ของกล้อง DSLR เลย และตัวกล้องยังได้รับการซีลเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นด้วย

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอย่างอื่นๆ ก็มีการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080/60p (น่าเสียดายที่ไม่รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K) มีโหมดการถ่ายวีดีโอแบบ Time-lapse รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, บลูทูธ และ NFC มีโหมดการถ่ายภาพพาโนรามา และมีอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจให้เลือกซื้อ อาทิ เลนส์ฮูด ในราคา $59 (ประมาณ 1,950 บาท), อุปกรณ์ Underwater Housing ในราคา $499 (16,500 บาท) และซองหนัง ในราคา $99 (3,300 บาท)