เนื้อร้อง( เกริ่น ) หละสาวโพนทองมายืนเก้อ คำสัญญานัดเจอบ่เห็นอ้ายน้อมาผ่าน หละคือจั่งคำอฐิฐานเคยสัญญาน้อกันไว้ ในงานงิ้วที่ผ่านมาหละสาธุเด้อ หละสาธุเด้อผู้ข้า วอนเจ้าปู่ซอยดลใจ ให้อ้ายกลับคืนมาเร็วไว เป็นจั่งได๋ให้คอยช่วยเดือนสามคล้อยลมพัดวอยๆใกล้สิ้นกุมพา ดอกมันปาเริ่มสิเบ่งบาน เต็มต้น คิดฮอดเด้ คิดฮอดแต่ผู้ลางคน ดอกจานบานแล้วล่วงหล่น ผ่านกี่ฝนแล้วอ้ายบ่มาใจคองถ่าคอยอ้ายกลับมาบ้านเฮา หรือลืมแล้วบ้อผู่บ่าว ว่ามีคนรออ้ายกลับคืนนา สัญญากันไว้งานงิ้วปีกลายอ้ายบอกสิมา นี้จนสิ้นเดือนกุมพา เลยเข้า มีนา เมษายนกะยังบ่เห็นส้น คนที่อยู่ทางไกล ฮู้บ่ว่าหัวใจมันสุดแสนจะหมองหม่น ได้แต่เฝ้ารอ รออ้ายกลับมาหาหน้ามน น้ำตาร่วงหล่นสุดจำทนแสนทรมาน( ลำ ) ไปไกลบ้าน ไกลบ้าน นานแล้วบ่ข่าว ลมหนาวพัดจ้อยผันเย็นตึ้งใส่ใจ ปล่อยถิ่มไว้บ่มาไถ่มาถาม จนเข้าเดือนสามกะยังบ่อ้าย หรือว่าใจอ้ายไปหลงคำย่อง ลืมผู่สาวโพนทองคนนี้แล้วบ่ จั่งให้รอคอยอ้าย หลายเดือนแล้วบ่ข่าวมาคิดฮอดแววตาคิดฮอดสัญญาพาใจเศร้า กอดความเหงาเฝ้าห่วงใยใจเหว่หว้า เดือนสามคล้อยลมพัดวอยๆ ใกล้สิ้นกุมพา คือจั่งสายลมส่า มันคอยฟ้องน้องอยู่ทุกวันตั้งแต่วันนั่นสิคิดฮอดกันบ้างแหน่บ่น้อ ว่าคนที่รอ มันแสนทรมาน จากใจคนคอย อยู่ทางนี้ยังเฝ้ารอวัน ย่านแต่ลืมกัน ย่านใจอ้ายนั่นมาเปลี่ยนไป( ลำ ) หัวใจมันกะยังคอยถ่า หรือวาสนา ผลาชินบ่ส่อง ปล่อยให้สาวโพนทองได้แต่นั่งสะอื้น สะอื้นโอ้ย สะอื้นๆ ได้ยืน หละยืนๆ ยืน คอยอ้าย น้ำตาไหล หละไหลลงรินย้อย ( ซ้ำ ) ยังเฝ้ายังคอย อ้ายคืนบ้าน......อ้ายคืนบ้าน...เออ |