เป็นเกมที่สนุกและดุเดือดอีกหนึ่งเกมท่ามกลางความกดดันของอาร์เจนติน่า แต่พวกเขากลับทำไม่ได้ โดนทางด้าน โครเอเชีย ปล่อยที่เด็ดการเล่นกันเป็นทีมมากกว่าและเอาชนะทีมจากอเมริกาใต้ได้เป็นครั้งแรกของโครเอเชีย ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 3-0
![]()
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นัดที่สองของกลุ่ม D คู่ระหว่าง อาร์เจนติน่า พบกับ โครเอเชีย โดยนัดแรก อาร์เจนติน่า พลาดท่าทำได้แค่เสมอกับไอซ์แลนด์ 1-1 มีเพียง 1 คะแนน ส่วนทางด้าน โครเอเชีย โชว์ฟอร์มดุดันเอาชนะไนจีเรียมา 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม
แมตช์นี้ ฮอร์เก้ ซามเปาลี นายใหญ่อาร์เจนติน่า มาในแผน 3-4-3 เปลี่ยนตัวผู้เล่นบางตำแหน่งในนัดแรก โดยส่งเอาทางด้าน มาร์กอส อากุนญ่า , เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ้ ลงเล่นเป็นนัดแรก และมี ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันคนสำคัญลงคุมเกมเช่นเคย ส่วนทางด้าน ซลัตโก้ ดาลิช นายใหญ่โครเอเชีย มาในแผน 4-2-3-1 โดยส่งเอา มาร์เซโล่ โบรโซวิช ลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และมี ลูก้า โมดริช ซูตาร์ประจำทีมคุมเกมในแดนกลาง
เริ่มเกมมาได้เพียง 5 นาที โครเอเชีย ได้ลุ้นประตูก่อนเมื่อ เปริซิช ได้บอลหลุดเข้าไปทางฝั่งซ้ายก่อนสับไกยิงแต่โดน กาบาเยโร่ เซฟไว้ได้สวย
![]()
นาทีที่ 10 โครเอเชีย มีลุ้นอีกครั้งจากการชิพบอลสุดสวยของ ราคิติช ไปทาง เรบิช ตวัดกลับมาไม่ดี โดนแนวรับอาร์เจนติน่าเคลียร์บอลออกไป
นาทีที่ 12 เมสซี่ ให้บอลทะลุช่องกับทาง แมร์คาโด้ ที่เติมขึ้นมาถึงเส้นหลังเปิดหักกลับไปให้ เมซ่า วิ่งเข้ามายิงแต่บอลไปแฉลบทางด้าน ลอฟเรน อาร์เจนติน่า ได้เพียงแค่ลูกเตะมุม
เกมผ่านไป 15 นาที ทั้งสองทีมเริ่มมีจังหวะการปะทะอย่างดุเดือดจนทำให้ผู้ตัดสินต้องเตือน
นาทีที่ 20 อาร์เจนติน่า ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายและเป็น อากุนญ่า เปิดด้วยซ้ายเหมือนจะไม่มีอะไรบอลตกลงบนคานของ โครเอเชีย และออกข้างไป
นาทีที่ 26 อาร์เจนติน่า ได้ลูกเตะมุม เมซ่า เปิดไปแต่บอลพุ่งเข้าหน้าต่างหลุดออกหลังไป
นาทีที่ 29 อาร์เจนติน่า ทำเกมขึ้นมาแนวรับโครเอเชียสื่อสารไม่เข้าใจกันพลาดท่า เมซ่า ตัดได้และเปิดบอลย้อนกลับมาให้ทาง เอ็นโซ่ ยิงประตูโล่งๆ แต่หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 32 โมดริช พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวา และก็โยนบอลมาที่เสาสอง มานด์ซูคิช วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้ามา โหม่งจ่อๆ แต่โดนแค่เฉียดๆ บอลออกไป พลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 45+2 โครเอเชีย ตัดบอลได้ในแดนตัวเองบอลมาถึง โมดริช มองและจ่ายคิลเลอร์พาสสุดสวยมาให้กับทาง เรบิช แต่จับบอลได้ไม่ดีจนทำให้แนวรับอาร์เจนติน่าลงมาทัน และ เรบิช ก็ตัดสินยิงเองบอลหลุดข้ามคานไป ท่ามกลางอาการเซ็งของ มานด์ซูคิช ที่ยืนว่างอยู่
หลังจากนั้นผู้ตัดสินเป่าหมดครึ่งแรกไป สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0
![]()
เริ่มเกมในครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น อาร์เจนติน่า เปิดเกมรุกโหมใส่ทางด้านโครเอเชียอย่างหนัก
นาทีที่ 53 โครเอเชีย โต้กลับมา แต่ทางด้าน แมร์คาโด้ ตัดบอลไปได้จ่ายบอลคืนหลังไปให้ กาบาเยโร่ และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเขาจะคืนบอลไปให้ แมร์คาโด้ แต่น้ำหนักไม่ได้ เรบิช ยืนอยู่ตรงนั้นเก็บส้มหล่นลูกใหญ่ยืนวอลเลย์สุดสวย พาโครเอเชียขึ้นนำ 1-0
![]()
หลังจากนั้น ซามเปาลี นายใหญ่ฟ้าขาว อยู่ไม่สุขจัดการเปลี่ยนตัวผู้เล่นรวดเดียว 2 คน โดยส่ง อิกัวอิน และ ปาวอน ลงไปเล่นแทนที่ของ อเกวโร่ กับ ซัลวิโอ้
นาทีที่ 63 อิกัวอิน พาบอลมาสุดเส้นเปิดหักเข้าไป เมซ่า วิ่งมาแปลแต่เบาเกินไป ซูบาซิช เซฟเอาไว้ได้ และเมสซี่ จะเข้ามาซ้ำแต่ติดทาง ราคิติช ได้เป็นเพียงลูกเตะมุมเท่านั้น
![]()
นาทีที่ 65 เวอร์ซัลโก้ ไหลบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับ มานด์ซูคิช ยิงแต่โดนทางด้าน ทาเกลียฟิโก้ สไลด์ตัดจังหวะจนทำให้ยิงออกไปเอง
นาทีที่ 73 ดูเหมือนจังหวะการเปิดเกมรุกของอาร์เจนติน่าดูจะติดขัดและผิดพลาดไปกันหมด โดยทางโครเอเชียตั้งเกมรับและรอส่วนกลับอย่างเดียว
นาทีที่ 80 โครเอเชีย ขึ้นเกมรุกมาจ่ายบอลเข้ากลางมาให้ โมดริช โยกหลอก โอตาเมนดี้ และยิงไกลสุดสวยช่วยให้โครเอเชียขึ้นนำห่างไป 2-0
![]()
นาทีที่ 85 ราคิดิช โดนตัดฟาวล์จากทางผู้เล่นของอาร์เจนติน่า แต่ทางด้าน โอตาเมนดี้ เตะบอลใส่ทาง ราคิติช ที่นอนอยู่กับพื้นทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกลางสนามจนผู้ตัดสินต้องเข้ามาห้าม และชูใบเหลืองให้ โอตาเมนดี้
นาทีที่ 90+1 โครเอเชีย บุกขึ้นมา ราคิติช ยิงไปติดเซฟของทางด้าน กาบาเยโร่ แต่บอลไหลไปเข้าทาง โควาซิช ไหลใส่พานกลับมาให้ ราคิติช ยิงปิดท้ายให้กับโครเอเชียไปได้ 3-0
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ทีมชาติอาร์เจนติน่า : วิลลี่ กาบาเยโร่ (GK), กาเบรียล แมร์คาโด้, นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้, มาร์กอส อากุนญ่า, ลิโอเนล เมสซี่, มักซิมิเลียโน่ เมซ่า, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เอ็นโซ่ เปเรซ, นิโคลัส โอตาเมนดี้, เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ้, เซร์คิโอ้ อเกวโร่
ทีมชาติโครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช (GK), ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, อิวาน สตรินิช, อิวาน เปริซิช, เดยัน ลอฟเรน, อิวาน ราคิติช, ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาริโอ มานด์ซูคิช,อันเต้ เรบิช, โดมากอย วิด้า